กินวิตามิน ดีอย่างไร
กินวิตามิน ดีอย่างไรวิตามินเป็นหนึ่งในสารอาหาร 5 หมู่ที่เรากินกันอยู่ ซึ่งจะเป็นสารอินทรีย์ชนิดหนึ่งที่อยู่ในสิ่งมีชีวิตไม่ว่าจะเป็นพืชและสัตว์ต่าง ๆ โดยร่างกายของคนเราจะใช้วิตามินเพื่อนำมาช่วยทำให้มีปฏิกิริยาในร่างกายเกิดขึ้น ส่งผลให้การทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายเป็นไปตามปกติ หรือพูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือ วิตามินเปรียบเสมือนน้ำมันหล่อลื่นในรถยนต์ที่จำเป็นต้องมี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ แต่ไม่ได้ให้พลังงานแก่รถ”
ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่าวิตามินเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกายมีแต่คุณประโยชน์ แต่รู้ไหมว่าวิตามินต่าง ๆ มีความลับซ่อนอยู่ที่หากคุณได้รู้จะช่วยให้คุณดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมและดีต่อร่างกายยิ่งขึ้นได้
ประเภทของวิตามิน
วิตามินสามารถแบ่งออกตามคุณสมบัติการละลายและการดูดซึมได้ 2 ประเภท ดังนี้
- วิตามินที่ละลายในน้ำ
ได้แก่ กลุ่มวิตามินบีรวม และวิตามินซี วิตามินประเภทนี้สามารถละลายได้ดีในน้ำ เมื่อรับประทานวิตามินประเภทนี้เข้าไปจะถูกดูดซึมอยู่ในร่างกาย 2-4 ชั่วโมง ส่วนที่เหลือจากการใช้งานจะถูกขับออกทางปัสสาวะ หรือเหงื่อ เพราะวิตามินประเภทนี้ละลายน้ำได้ดี จึงทำให้โอกาสสะสมในร่างกายมีน้อย และไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง จึงจำเป็นที่ร่างกายต้องได้รับวิตามินเหล่านี้ในปริมาณที่เพียงพอทุกๆ วัน
- วิตามินที่ละลายในไขมันหรือน้ำมัน
ได้แก่ วิตามินเอ ดี อี และเค วิตามินประเภทนี้จะละลายได้ดีในไขมัน หรือน้ำมันเท่านั้น เมื่อร่างกายดูดซึมไปใช้ส่วนที่เหลือจากการใช้งานจะถูกกักเก็บไว้ตามกล้ามเนื้อ หรือไขมันในร่างกาย ไม่สามารถขับออกมาทางปัสสาวะได้
ดังนั้นหากได้รับในปริมาณที่มากเกินไป หรือได้รับติดต่อกันเป็นเวลานานๆ จะเกิดการเก็บสะสมไว้ในร่างกาย และส่งผลเสียต่อร่างกายได้
ประโยชน์ของวิตามินต่างๆ
วิตามินเอ
- ช่วยสร้างภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อในทางเดินหายใจ
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น ช่วยรักษาโรคตาได้หลายโรค โดยช่วยสร้างเม็ดสีที่มีคุณสมบัติไวต่อแสง
- ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- วิตามินเอช่วยลดระยะเวลาการเจ็บป่วยจากโรคต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
- ช่วยลดจุดด่างดำ รอยแผลเป็น รอยแผลสิวที่ผิวหนังได้ดี
- ช่วยสร้างเนื้อเยื่อชั้นนอกของอวัยวะต่าง ๆ ให้มีสุขภาพดีขึ้น
- ส่งเสริมการเจริญเติบโตของร่างกาย ผิวพรรณ ผม ฟัน เหงือก และเพิ่มความแข็งแรงของกระดูก
- รักษาโรคถุงลมโป่งพองและไทรอยด์เป็นพิษได้
- หากใช้ทาบริเวณผิวหนังจะช่วยรักษาสิวได้ ลดริ้วรอยตื้น ๆ
- ช่วยรักษาโรคผิวหนังชนิดเป็นตุ่มพุพองที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ฝี ชันนะตุ และแผลเปิดต่าง ๆ ผลจากการขาดวิตามินเอ จะทำให้นัยน์ตาแห้ง มีอาการตาบอดตอนกลางคืน การขาดวิตามิน สาเหตุอาจมาจากการดูดซึมไขมันบกพร่องเรื้อรัง พบมากในวัยเด็กอายุไม่เกิน 5 ขวบ เนื่องจากการรับประทานอาหารไม่เพียงพอ
วิตามินบี 1
- รักษาโรคจากการขาดวิตามินบี 1 ได้แก่โรคเหน็บชา
- เสริมสร้างการเจริญเติบโต
- ช่วยย่อยอาหารจำพวกแป้งได้เป็นดี
- ช่วยบำรุงประสาท กล้ามเนื้อ และหัวใจให้ทำงานเป็นปกติ
- ช่วยบำรุงสมอง ความคิด สติปัญญาให้ดีขึ้น
- ช่วยบรรเทาอาการเมารถ เมาเรือ เมาเครื่องบิน
- บรรเทาอาการเจ็บปวดหลังผ่าตัดทำฟัน
- ช่วยรักษาโรคงูสวัด
- วิตามินชนิดนี้มีคุณสมบัติในการขับปัสสาวะอย่างอ่อน ๆ
วิตามินบี 2
- ช่วยในกระบวนการสร้างการเจริญเติบโตและสืบพันธุ์
- บำรุงผิวพรรณ เล็บ และเส้นผม
- เพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น ช่วยบรรเทาอาการอ่อนล้าของสายตา
- ช่วยลดความเจ็บปวดจากไมเกรน
- กำจัดอาการเจ็บแสบในปาก ริมฝีปาก และลิ้น
- ทำงานร่วมกับสารอื่น ๆ ในการเผาผลาญอาหารประเภทแป้ง ไขมัน และโปรตีน
วิตามินบี 5
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
- ช่วยลดอาการข้างเคียงจากการใช้ยาปฏิชีวนะ
- ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย
- ช่วยในกระบวนการรักษาแผล
- ช่วยรักษาอาการช็อกหลังการผ่าตัด
- ช่วยป้องกันการอ่อนเพลียของร่างกาย
- ช่วยลดความเจ็บปวดจากโรคข้ออักเสบในผู้ป่วยบางรายได้
- ช่วยรักษาอาการเหน็บชาที่มือและเท้า
- ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย
วิตามินบี 6
- วิตามินบี 6 ทำงานร่วมกับวิตามินบี 9 หรือกรดโฟลิค (Folic acid) ในการลดระดับกรดอะมิโน (Amino acid) ที่มีชื่อว่า โฮโมซิสเทอีน (Homocysteine) ในกระแสเลือด ส่งผลให้ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจลดลง
- เสริมความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกัน
- ป้องกันการเกิดนิ่วในไต
- ช่วยให้ร่างกายดูดซึมโปรตีนและไขมันได้ดีขึ้น
- ช่วยในการเปลี่ยนรูปทริปโตเฟน (Tryptophan) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่สำคัญต่อร่างกายให้เป็นวิตามินบี 3 หรือไนอะซิน (Niacin)
- ช่วยป้องกันโรคทางระบบประสาทและผิวหนังหลายชนิด
- ลดอาการคลื่นไส้ (ยาบรรเทาอาการแพ้ท้องหลายขนานที่แพทย์สั่งมีวิตามินบี 6 เป็นส่วนประกอบ)
- ช่วยส่งเสริมการสร้างกรดนิวคลิอิก (Nucleic acid) ที่ชะลอกระบวนการชราได้
- ลดอัตราอาการกล้ามเนื้อหดเกร็งในเวลากลางคืน ขาเป็นตะคริว มือชา และปลายประสาทที่แขนขาอักเสบบางชนิด
วิตามินบี 7
- ไบโอติน ช่วยป้องกันผมหงอกได้ดี
- ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ
- ช่วยในการเผาผลาญไขมันและโปรตีน
- ช่วยป้องกันและรักษาโรคเกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะล้าน
- ช่วยบรรเทาอาการผื่นผิวหนังอักเสบ ผดผื่นคันต่าง ๆ
- ช่วยป้องกันและบำรุงรักษาเล็บที่แห้งเปราะ
วิตามินบี 12
- ช่วยบำรุงประสาท ทำให้ระบบประสาทแข็งแรงขึ้น
- ช่วยเพิ่มสมาธิ ความจำ และการทรงตัว
- ช่วยบรรเทาอาการหงุดหงิด ลดความเครียด
- ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตและเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย
- ประโยชน์วิตามินบี 12 ช่วยทำให้เด็กเจริญอาหาร
- ทำให้ร่างกายสามารถใช้ไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตได้อย่างเหมาะสม
- มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ
- ประโยชน์ของวิตามินบี 12 ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันโรคโลหิตจาง
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งจากการสูบบุหรี่
- ปริมาณ 80 ไมโครกรัมต่อวันจะช่วยเสริมสร้างความแข็งของกระดูกและช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนได้
วิตามินซี
- ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ และลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
- การรับประทานเป็นประจำจะช่วยให้ผิวใส เนียน นุ่มลื่นอย่างเป็นธรรมชาติ
- ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- ช่วยในการรักษาและป้องกันโรคหวัด
- ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
- ประโยชน์วิตามินซี ช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้หลายชนิด
- ช่วยต่อต้านการสร้างสารไนโตรซามีน (สารก่อมะเร็ง)
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
- ประโยชน์ของวิตามินซี ช่วยลดความดันเลือด
- ช่วยลดการเกิดเส้นเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ
- ช่วยต่อชีวิตให้เซลล์โดยช่วยให้โปรตีนในเซลล์เกาะเกี่ยวกันได้ดีขึ้น
- ช่วยเพิ่มการดูดซึมของธาตุเหล็ก
- เป็นยาระบายตามธรรมชาติ
- เพิ่มประสิทธิภาพของยาที่ใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
- ช่วยลดอาการที่เป็นผลมาจากสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้
- ช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียหลายชนิด
- ช่วยเร่งให้แผลหลังผ่าตัดหายเร็วยิ่งขึ้น
- ช่วยในการรักษาแผลสด แผลไหม้ให้หายเร็วยิ่งขึ้น
วิตามินดี
- ช่วยเสริมการใช้แคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งจำเป็นต่อความแข็งแรงของกระดูกและฟัน
- หากรับประทานร่วมกับวิตามินเอและวิตามินซีจะช่วยป้องกันโรคหวัดได้
- ช่วยในการรักษาโรคเยื่อบุตาอักเสบ
- ช่วยในการดูดซึมของวิตามินเอ
วิตามินอี
- ช่วยทำให้แลดูอ่อนกว่าวัย โดยชะลอกระบวนการเสื่อมสภาพของเซลล์
- ช่วยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี
- ช่วยนำออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายเพื่อเพิ่มสมรรถภาพความทนทาน
- ช่วยปกป้องปอดจากมลพิษทางอากาศ โดยทำงานร่วมกับวิตามินเอ
- ช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้หลายชนิด
- เพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้กับโรคให้เม็ดเลือดขาวชนิดทีเซลล์
- ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม
- ช่วยป้องกันและสลายลิ่มเลือด
- ช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลีย
- ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจก
- ป้องกันแผลเป็นหนานูน ทั้งภายนอกและภายใน
- เร่งให้แผลไหม้บริเวณผิวหนังหายเร็วยิ่งขึ้น
- ทำงานคล้ายยาขับปัสสาวะ ช่วยลดความดันโลหิต
- ช่วยในการป้องกันภาวะแท้ง
- บรรเทาอาการตะคริวหรือขาตึง
- ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและอัมพฤกษ์ อัมพาต
- ลดความเสี่ยงและความรุนแรงของโรคอัลไซเมอร์ได้
วิตามินเค
- ช่วยป้องกันเลือดออกภายในและเลือดออกไม่หยุด
- ช่วยบรรเทาอาการประจำเดือนมามากกว่าปกติ
- ช่วยในกระบวนการสร้างลิ่มเลือด
- ช่วยป้องกันกระดูกเปราะบาง
joker เกมส์สล็อตออนไลน์ใหม่ บาคาร่า เกมส์ไพ่ยอดฮิต แทงบอลออนไลน์ เดิมพันขั้นต่ำ 10 บาท ได้ที่ UFABET
อัพเดทล่าสุด : 30 พฤษภาคม 2020